หน้าเว็บ

บทความที่ได้รับความนิยม

9 พฤศจิกายน 2554

บรรยายพิเศษ ดร.เทรูโอะ ฮิหงะ เมื่อ 6 พ.ย.48

สรุป ฟังการบรรยายพิเศษ โดยศาสตราจารย์ ดร. เทรูโอะ   ฮิหงะ 
เมื่อ ๖ พ..๔๘ เวลา ๑๓๓๐-๑๖๐๐ ณ หอประชุมราชนครินทร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์
-----------------------
                EM เข้ามาสู่ประเทศไทย เมื่อปี ๒๙   ระยะเวลาผ่านมา ๒๐ ปี        ได้มีการใช้ EM   ในชีวิตประจำวันอย่างกว้างขวาง     ดังนั้น โครงการเศรษฐกิจพอเพียง  แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง  หรือการที่จะให้ประเทศไทยเป็นครัวโลก   ก็น่าจะเป็นจริงได้ สภาพความเป็นจริงที่มีการเกิดความผิดปกติมากมาย  ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ โรคภัยไข้เจ็บมลพิษต่าง ๆ   เกินจะแก้ไขในปัจจุบัน      แนวคิดที่ล้าหลังในการที่จะรักษาสิ่งแวดล้อม      การรักษาโรคภัยไข้เจ็บ    หากเราไม่กระตือรือร้นที่จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวัน   มีการเดินหน้าใช้สารเคมี สารปฏิชีวนะต่อไป    จึงเป็นต้นเหตุของการทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งมวล
                ในด้านการเกษตร    ถ้าเราใช้สารเคมี       สารพิษเหล่านั้นก็จะซึมลงในดิน    ไหลลงสู่แม่น้ำลำคลอง   แล้วก็ลงทะเล     ดินก็เสีย  น้ำก็เสีย  อากาศก็เสีย  เป็นการเพิ่มแอนโทรฟี่ให้เกิดขึ้น       ในระบบทุกอย่างในโลกถ้าเกิดแอนโทรฟี่  จะไม่สามารถแก้ปัญหาได้    แล้วเราจะทำอย่างไร  ก็ต้องทำความเข้าใจว่ามันเกิดแอนโทรฟี่ได้อย่างไร               สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีจุลินทรีย์เข้ามามีบทบาททั้งสิ้น   ดังนั้น เราต้องเข้าใจก่อนว่าตรงไหนที่สร้างแอนโทรฟี่   ออกซิเดชั่น        ในการที่เราพยายามคิดค้นหาสารเคมีเพื่อนำมาแก้ปัญหาเหล่านี้    เช่น    ใช้คลอรีน     ใช้สารปฏิชีวนะ     ก็เป็นกระบวนการทำลายจุลินทรีย์        เราใช้มากเท่าไร       จุลินทรีย์จะสร้างเกาะป้องกันมากขึ้นเป็นลำดับ      ในตอนต้นคิดว่ามันหายไป   แต่เพราะมันสร้างเกาะป้องกันไว้   ไม่สามารถเอาชนะกลุ่มนี้ได้    
                ในโลกกลุ่มจุลินทรีย์ ได้แบ่งจุลินทรีย์เป็นฝ่ายดี และฝ่ายชั่ว(ไม่ดี) จากการศึกษา EM  เราจะแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มฝ่ายดี         พูดอย่างนี้ใครก็ทำได้       แต่การปฏิบัติจริงมันเป็นเรื่องยากทีเดียว   จุลินทรีย์ฝ่ายดีส่วนใหญ่ไม่ต้องการอากาศ            การจะทำให้จุลินทรีย์กลุ่มนี้ทำงานจึงต้องเป็นภาวะที่เหมาะสมเอื้ออำนวยต่อการทำงาน         สมัยก่อนยังไม่มีอุปกรณ์ป้องกันอากาศ     ปัจจุบันมีขวดพลาสติกปิดฝาได้สนิท    ในการสอนทำ EM ขยาย  EM หมักน้ำซาวข้าว บางครั้ง ปรากฎว่าไม่สำเร็จเพราะ     น้ำไม่สะอาด  กากน้ำตาลมีสารปนเปื้อน   จึงมีจุลินทรีย์กลุ่มไม่ดีเข้ามาเกี่ยวข้อง        ดังนั้น ควรใช้น้ำประปา  ตั้งทิ้งไว้ ๑ คืน  หรือน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว          สรุปได้ว่า  EM จะดีอย่างไร   ถ้าการปฏิบัติไม่ถูกต้อง  จึงควรระมัดระวัง             ค่า PH ของ EM จะอยู่ที่ ๓.๕ หรือ ๓.  เชื้ออื่น ๆ จะไม่เข้ามา    น้ำและวัสดุที่นำมาขยายไม่ดี  เหมาะสมหรือไม่   ต้องกลับไปพิจารณา 
                การใช้ EM บำบัดน้ำเสีย  ใช้เป็นจำนวนมาก    จึงต้องใช้ EM ขยาย    EM ปลอมก็ออกสู่ตลาดมากเช่นกัน     ผู้ผลิต EM ปลอมถือว่าเป็นผู้สร้างความเสียหาย     ความเสื่อมในสังคม   เป็นผู้ทำลาย เพราะผู้บริโภคไม่ปลอดภัย    EM แต่เดิมมี 5 กลุ่ม 80 กว่าชนิด  ก็



- -

พยายามคิดค้นคัดเฉพาะที่มีความจำเป็นสูง   บังคับให้เหลือ 3 ชนิด  คือ  กลุ่มสังเคราะห์แสง  แลคโตรไมซีทส์  และกลุ่มยีสต์  ซึ่งเป็นจุลินทรีย์หลัก   เป็นกลุ่มที่มีค่า PH ต่ำกว่า 3.5      EM จะแอนติออกซิเดชั่น  ป้องกันปฏิกิริยา เหล็ก +อากาศ  = เคมี/สนิม   EM จะป้องกัน   ยับยั้ง  และคืนสภาพเดิมให้แก่วัตถุนั้นได้    ปฏิกิริยาแอโทรฟี่(ความเสื่อมโทรม)  เกิดจากออกซิเดชั่นอย่างรุนแรง  เช่น  ตึกถล่ม  เสื้อผ้าขาด   เกิดจากออกซิเดชั่นหรืออากาศทั้งนั้น     การใช้ EM เป็นการป้องกันและยับยั้ง     EM  จึงครอบจักรวาล       มีการนำไป.ใช้ในทางการแพทย์  การก่อสร้าง  การเกษตร  ไอเสียรถยนต์    EM แก้ไขได้      มลภาวะที่เกิดจากออกซิเดชั่นสามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง  แม้แต่พลังงานนิวเคลียร์ เมื่อเกิดปฏิกิริยา  ก็เกิดผลเสียหาย  เกิดออกซิเดชั่น  เกิดอนุมูลอิสระ   เราจึงแก้ปัญหาได้ทั้งหมด    คนไข้ที่เกิดจากสารพิษ  สารเคมี  สามารถรักษาได้  กัมมันตภาพรังสีทำให้เซลล์เปลี่ยนไป  เกิดเป็นมะเร็ง   EM ทำให้ยับยั้งอุณหภูมิ  การเผาไหม้  การเกิดไดออกซีนจากการเผาไหม้  
 เราสามารถเปลี่ยนการทำลายสภาพแวดล้อม  เช่น ใช้มูลสัตว์(ขยะ)กลับมาใช้ประโยชน์
ใช้ EM จะทำให้กลิ่นหายไป    เศษขยะจากการเกษตรถ้าทิ้งไปก็เปล่าประโยชน์และทำลายสิ่งแวดล้อม   แต่เรานำกลับมาใช้ให้เกิดประโยชน์และประหยัด    ทำให้เกิดผลดีต่อสภาพแวดล้อม        การที่ EM ยับยั้ง ออกซิเดชั่น  จากเสีย ให้กลับมาเป็นประโยชน์    สิ่งแวดล้อมสมบูรณ์มากขึ้น      ดังนั้น ในชีวิตประจำวัน   ไม่ว่าจะล้างหน้า แปรงฟัน  อาบน้ำ  ในห้องน้ำ ซักผ้า      เราก็ใช้ EM กับน้ำซาวข้าว    ในด้านการเกษตรถ้าเรายังคงใช้สารเคมีซึ่งเป็นสาเหตุของดินเสื่อม        ขอให้นำ EM ไปใช้ด้วยจะทำให้ลดปัญหาลงได้    แล้วก็สามารถเลิกใช้สารเคมีเด็ดขาด
                ในประเทศญี่ปุ่นได้มีการให้ความรู้กับพลเมือง ตั้งแต่ระดับประถม        มีการใช้ EM   ,๐๐๐ กว่าโรงเรียน   กับสระว่ายน้ำ  หมักเศษอาหาร  ทำปุ๋ย            ก็ได้แบบอย่างการใช้ EM จาก รร.โชคชัยสามัคคี ของไทย  ขณะนี้คณะรัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้ EM มากขึ้น        การใช้ EM สามารถทำให้เกิดสภาวะสร้างสรร และไม่ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก   แต่เดิมการเผยแพร่เป็นหน้าที่ของอาสาสมัคร    ปัจจุบันได้มีการนำ EM ไปใช้ในชีวิตประจำมากขึ้น
                การปรับปรุงสังคมให้ดีขึ้น  เป็นหน้าที่ของทุกคน   แต่จะทำอย่างไร   การนำ EM ไปในชีวิตประจำวัน     จะทำให้สังคมและสิ่งแวดล้อมกลับคืนสภาพ           เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตใช้ EM ให้เป็นความรู้ความเข้าใจ   ใช้ EM ให้เป็นนิสัย             ปัญหาต่าง ๆ รอบชีวิตของเราจะหายไปเองไม่เฉพาะสิ่งแวดล้อมเท่านั้น    เมื่อต้องการความรู้ความเข้าใจต้องพูดภาษา EM ให้ได้     ภาษา EM ไม่ใช่ภาษาไทย   ไม่ใช่ภาษาญี่ปุ่น    แต่เป็นภาษาที่ต้องใช้จึงจะชำนาญ   ภาษา EM คือการใช้ EM อย่างมีความรู้ความเข้าใจ   ในญี่ปุ่นกล่าวได้ว่าใช้ EM ตั้งแต่ตื่นนอน  จนเข้านอน(กอดนอน)ทั้งคืน   หายใจเข้า-ออก เป็น EM  คุณจะรู้เองว่าจะใช้ EM อย่างไร  เท่าไร      หัวใจการใช้ EM อยู่ที่อัตราส่วนความหนาแน่น  อันเป็นต้นเหตุให้เกิดผลเสีย   

- -

ก็ต้องใช้ EM มากขึ้น     ถ้า EM ใช้ไม่ได้ผล       ก็ต้องเพิ่มให้มากขึ้นจนได้ผล      EM ไม่มีกฎเกณฑ์ในการใช้    แต่ให้ใช้จนกว่าจะเห็นผล          การผลิตน้ำปลา  ปลาร้า  ไม่มีสูตรตายตัว   ขึ้นอยู่กับประสบการณ์  ความคุ้นเคย  ความตั้งใจ       ทำให้เป็นรู้สึกว่าเป็นเลือดเป็นเนื้ออย่างแท้จริง
                ปัจจุบันมี EM ปลอมเกิดขึ้นมากมาย   ผู้บริโภคควรเพิ่มความระมัดระวัง     ความรับผิดชอบต่อ EM อยู่ที่ผู้ใช้    เหมือนเราไปซื้อต้นไม้      พอนำไปปลูก(ผู้ใช้)   มันจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่ผู้ปลูก  อย่าคิดว่า EM คือวัตถุ   เพราะ EM เป็นสิ่งที่มีชีวิต   ถ้าทำแล้วไม่ได้ผลให้ทบทวนว่าตรงไหนมันผิดพลาดทุกวันนี้สิ่งที่ผิดพลาด คือ กฎแห่งการรับผิดชอบต่อตนเอง        เวลาเราผิดพลาดอะไรมักจะไม่โทษตนเอง    แต่กลับไปโทษผู้อื่น     โรคภัยไข้เจ็บเกิดจากตัวเรา  การใช้ชีวิตของเราไม่ถูกต้อง    เราขาดความสำนึกที่จะทำประโยชน์ให้แก่สังคม  คือ ความรู้สึกและสำนึกต่อตัวเองและสังคม  เราทำอะไรให้สังคม  ให้คนอื่นบ้าง      ความรับผิดชอบต่อตัวเอง และความสำนึกการทำประโยชน์ให้สังคมจะเกิดขึ้นมาจาก EM      การจะเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาอะไรก็ตาม   ถ้าทำ  ๒ สิ่งดังกล่าวดังกล่าวสังคมจะไม่มีปัญหาแน่นอน
                ประเทศไทยมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ที่ทรงมีความห่วงใยประชาชน  โดยมีเศรษฐกิจ
พอเพียง(พอกินพอใช้)       ในหลวงทรงเตือนพวกเรา        ให้กองทัพ   หน่วยงานต่าง ๆ   ดำเนินการ   ไม่เช่นนั้นโครงการเกษตรอินทรีย์คงเกิดขึ้นได้ยาก     แต่สังคมถูกมัดโดยผลประโยชน์  ยิ่งกินยิ่งใช้หาผลประโยชน์    กิจกรรมที่รัฐทำเป็นนโยบาย  เป็นความคิด    แต่โครงการเศรษฐกิจพอเพียงสามารถปฏิบัติได้จริง   ช่วยสอน  ช่วยทำความเข้าใจ  ตรงนี้นับเป็นจุดเด่นของประเทศไทย
                การใช้ EM ในการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศญี่ปุ่น   เช่น   กองขยะ    เราใช้ EM  ผสมน้ำ ๑ : ๕๐๐-,๐๐๐  ฉีดพ่น  เอาดินกลบลงไป   ประมาณ ๑ เดือน  กลิ่นหายไป   แมลงวันก็หายไปถ้ามีการคัดแยกขยะ   เรานำอินทรีย์วัตถุจากขยะ ฉีดพ่น EM  หมักไว้ ๔๕ วัน  ก็นำมาทำเป็นปุ๋ยแจกหรือจำหน่ายได้ ในการบำบัดน้ำเสีย  เราก็ใช้ EM ขยาย  อัตราส่วน ๑ ลิตร บำบัดน้ำเสียได้ ๑ ลบ..( : ๑๐,๐๐๐)  น้ำจะใส  ตะกอนไม่มี  สัตว์น้ำมีมากมาย   เมื่อนำน้ำไปตรวจอีโครไลท์ มีค่าเป็น ๐ เป็นน้ำสะอาดบริสุทธิ์ใช้ดื่มได้โดยไม่ต้องต้มเลย    หน่วยงานในประเทศญี่ปุ่น  มีการตั้ง EM ขยายแจกฟรีให้กับประชาชน ชุมชนต่าง ๆ  เพื่อนำไปใช้ตั้งแต่ในครัวเรือน    น้ำคลองจะสะอาดเพราะเราบำบัดตั้งแต่ต้นทาง  ระหว่างทาง  และปลายทาง   ใช้เวลา ๓-๕ ปี    แม่น้ำลำคลองจะสะอาดขจัดตะกอนได้จำนวนมาก  พืชและสัตว์น้ำจะเจริญเติบโตอุดมสมบูรณ์โดยธรรมชาติ    ในด้านการเกษตร  จะทำให้เพิ่มผลผลิต ๓-๖ เท่า   ในเรื่องสัตว์เลี้ยง  ผสม EM ให้สัตว์กิน  ไก่จะไม่เป็นไข้หวัดนก   ฉีดพ่นคอกสัตว์      ผสมในอาหารให้สัตว์กิน      ส่วนในโรงงานอุตสาหกรรม หรือหน่วยงานต่าง ๆ   ควรให้มีการระบบบำบัดน้ำเสียด้วยการใช้ EM  ก่อนที่ปล่อยลงแม่น้ำลำคลองทะเลก็จะสะอาด   สิ่งแวดล้อมก็จะดี
---------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น